โรคจอประสาทตาเสื่อม
Age-Related Macular Degeneration: AMD
คือ ภาวะที่นำไปสู่การสูญเสียการมองเห็น ซึ่งพบได้มากในผู้ป่วยอายุ 60 ปีขึ้นไป โรคจอประสาทตาเสื่อมเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และมีแนวโน้มที่คนจะป่วยเป็นโรคนี้มากขึ้นตั้งแต่อายุน้อย

อาการตาแห้ง
ตาแห้งเป็นความผิดปกติเนื่องจากสมดุลของน้ำตาเสียไป ในประเทศไทยมีรายงานความชุกของ ตาแห้งสูงถึง 34% ในคนที่อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ตาแห้งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ส่งผลทำให้ปริมาณและคุณภาพ ของน้ำตาด้อยลง เป็นเหตุให้กระจกตาแห้งง่ายโดยอาการตาแห้งมีความรุนแรงแตกต่างกันไป ตั้งแต่มีความรุนแรงเพียงเล็กน้อย เช่น เคืองตา แสบตา ไม่สบายตา สู้แสงจ้าไม่ได้ตาแดง จนบางรายอาจมีอาการรุนแรงมากเช่น เกิดแผลที่กระจกผิวตากระจกตา ทะลุกระจกตาขุ่น เป็นต้น (ข้อมูลจาก: https://pharmacy.hcu.ac.th/upload/files/CPE%20HCU/2560/20170427_Dry%20eyes.pdf)
งานวิจัยผลจากการทานบิลเบอรี่ 6 สัปดาห์


ผลการทดสอบอาการตาแห้ง ด้วยวิธี Schirmer’s Test ด้วยแผ่นฟิล์มกระดาษ สำหรับการวัดปริมาณน้ำตา ซึ่งทดสอบโดยให้ผู้ทดสอบลืมตาและมองที่จัดใดจุดหนึ่ง เป็นระยะเวลา 5 นาทีผลการทดสอบพบว่า กลุ่มที่รับประทาน บิลเบอรี่ (Bilberon-25) วันละ 120 มก.ต่อวัน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ พบว่า มีปริมาณน้ำตาเพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ย 44.5% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับประทาน ซึ่งสรุปได้ว่าสามารถช่วยลดอาการตาแห้งได้

ออฟฟิศซินโดรม(Office Syndrome)
“เมื่อสายตาเริ่มเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมในยุคดิจิตอล ไม่ว่า จะวัยเด็กหรือวัยผู้ใหญ่ อาการตาพร่ามัว กล้ามเนื้อตาเมื่อยล้า ตาบอดเวลากลางคืน จอประสาทตาเสื่อม ล้วนเกิดจากการจ้อง มองจอมือถือ คอมพิวเตอร์ เป็นเวลานาน โดยไม่ได้หยุดพัก หากไม่รีบแก้ไขอาจทำให้ตาบอดได้”

3 อาการบ่งชี้ รีบดูแลดวงตา
ตาแห้ง เป็นโรคตาที่เกิดจากระบบต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติ ทำให้มีปริมาณน้ำตาไม่เพียงพอมาหล่อเลี้ยงดวงตาหรือมีการระเหยของน้ำตาที่มากเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการไม่สบายตา เคืองตา แสบตา ตาแดง ตาอักเสบ หากเป็นมากควรปรึกษาแพทย์ การกระพริบตาบ่อยๆ จะช่วยลดอาการตาแห้งได้
เห็นภาพซ้อน (Diplopia) คือ ความผิดปกติของดวงตาที่มองเห็นวัตถุซ้อนกัน มีด้วยกันจากหลายสาเหตุ อาจเกิดจาก โรคเบาหวาน ติดสุรา การโดนแดดมากๆ สูบบุหรี่ การติดเชื้อที่ตาเรื้อรัง ได้รับอุบัติเหตุ หรือใช้งานหนัก โดนผลกระทบจากแสงสีฟ้าจากมือถือ
อาการปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง อันสืบเนื่องมาจากกล้ามเนื้อตาที่ตึง ขาดความยืดหยุ่น ผลจากการจ้องมองจอภาพ มือถือ คอมพิวเตอร์ เป็นเวลานานโดยไม่ได้พักกล้ามเนื้อตา ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อตึง และส่งผลต่อเส้นคอ บ่า ไหล่ และหลัง
งานวิจัยบิลเบอรี่ลดอาการปวด ตึง คอ บ่า ไหล่


งานวิจัยทดสอบ พบว่ากลุ่มที่รับประทาน บิลเบอรี่(Bilberon-25) วันละ 120 มก.ต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ มีค่าคะแนนของการตึงคอ บ่า ไหล่ ที่ลดลง เมื่อเทียบกับ ผู้ที่ไม่ได้รับประทาน แสดงให้เห็นว่าสามารถลด อาการตึง คอ บ่า ไหล่ อันเกิดจากการทำงานหนักของกล้ามเนื้อตาได้
สถาบันจักษุแพทย์ของอเมริกาแนะนำให้รับประทานอาหารบำรุงสายตาได้แก่
- Vitamin C (ascorbic acid) 500 mg
- Vitamin E 400 international units (IU)
- Lutein 10 mg
- Zeaxanthin 2 mg
- Zinc (as zinc oxide) 80 mg
อ้างอิง: https://www.aao.org/eye-health/diseases/vitamins-amd

ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะกับ
- ผู้มีปัญหาทางสายตาเช่น แสบตา ตาแห้ง จอประสาทตาเสื่อม ตาเริ่มพร่ามัว ต้อในตา ต้อกระจก ตาสู้แสงไม่ได้ ผู้มีอาการออฟฟิศซินโดรม ปวดคอบ่าไหล
- ผู้ที่ต้องการบำรุงดวงตา
- ผู้ที่ใช้สายตาเยอะ
บิลเบอรี่(Bilberry) เป็นผลไม้แถบสแกนดิเนเวีย เป็นพืชตระกูล Vaccinium มีผลขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลาง 3-10 มม. อุดมไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระสูง หลากหลายชนิด โดยมีสารสำคัญได้แก่สารแอนโธไซยานิน และแอนโธไซยานิดิน ที่ช่วยบำรุงดวงตา … อ่านต่อ
ลูทีนและซีแซนทีน เป็นสารอาหารที่อยู่ภายใน ดวงตา บริเวณที่เรียกว่า Macula และเลนส์ตา ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์สารทั้งสองขึ้นเอง จะต้องได้รับจากการรับประทานเท่านั้น ลูทีน จัดอยู่ในกลุ่มสารแคโรทีนอยด์ สามารถ พบได้ในพืช โดยทั่วไปเช่น เช่น แครอท ฟักทอง ปวงเล้ง ข้าวโพด ดอกดาวเรือง เป็นต้น …อ่านต่อ